เรื่องของทิศในปีที่ทำการก่อสร้างที่สัมพันธ์กับเดือนที่ดีและร้าย การเลือกปีในการก่อสร้างที่ไม่ให้เกิดผลในทางชงหรือให้ร้าย รวมไปถึงรูปทรงบ้านที่เว้าแหว่งในแต่ละทิศทางที่จะส่งผลกระทบต่อบุคคลในบ้าน มีผลในเรื่องต่างๆ เช่น หากขาดหรือเว้าแหว่งทางทิศเหนือทำให้การงานไม่มั่นคง หรือหากขาดหรือเว้าแหว่งในมุมทิศตะวันตกทำให้ขาดทายาทสืบสกุล
ขอกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องข้อห้ามของการสร้างรั้วบ้านดังนี้คือ ในกรณีที่ห้ามสร้างรั้วก่อนการสร้างบ้านไม่รวมถึงเรื่องการล้อมรั้วลวดหนาม รั้วที่นิยมสร้างจะเป็นรั้วแบบโปร่งๆ ให้ลมพัดเข้าออกได้ดี ผู้เขียนเข้าใจอยู่ว่าเดี๋ยวนี้โจรผู้ร้ายชุกชุม บางพื้นที่หากไม่สร้างรั้วขึ้นมาก่อนจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย
สำหรับท่านที่สร้างรั้วก่อนสร้างบ้านไปแล้ว ผู้เขียนมีวิธีในการแก้ไขคือ ให้คุณขุดดินจากทิศทั้งสี่ของบ้าน มาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ผึ่งแดดให้แห้ง แล้วนำดินที่ปั้นไว้นั้นมาประพรมด้วยเครื่องหอม คลุกเคล้าด้วยดอกไม้ 5 สี อันได้แก่ ดาวเรือง กุหลาบ อัญชัน บานไม่รู้โรย และดอกรัก ประพรมด้วยน้ำพระพุทธมนต์จากวัดต่างๆ 9 วัด แล้วนำดินนั้นไปเก็บไว้ในภาชนะที่เปิดฝาไว้ และหาที่เก็บ อาจจะไว้ในห้องพระก็ได้ เมื่อคุณสวดมนต์จะได้เพิ่มพลังที่เข้มขลังมากขึ้นไปอีก ครั้นเมื่อสร้างบ้านเสร็จแล้วก็จะมีการสร้างศาลพระภูมิเจ้าที่ ให้นำดินนั้นใส่ก้นหลุมศาลพระภูมิ ความเป็นมงคลก็จะเกิดขึ้นโดยสมบูรณ์
การแก้ไขสำหรับบ้านที่เว้าแหว่ง โดยทั่วไปมักนิยมให้แก้ไขโดยการปลูกต้นไม้ แต่ซินแสฮวงจุ้ยส่วนใหญ่หลงลืมไปว่า การปลูกต้นไม้ใกล้บ้านมากจนเกินไปจะมีผลกระทบให้ร้ายมากกว่าคือ หากเป็นต้นไม้ใหญ่รากจะชอนไชกระทบกับโครงสร้างของบ้านได้
วิธีการแก้ไขสำหรับบ้านที่ปลูกมาแล้วเว้าแหว่งก็คือ มุมนั้นอาจวางกระถางที่ปลูกไม้ดอกที่มีสีสันสดใสวางไว้เป็นแนวหรือเป็นระยะๆก็ได้ให้เต็มพื้นที่ที่เว้าแหว่งนั้น หรือจัดบริเวณนั้นให้เป็นสวนสวยๆไปเลยก็ได้ ดูจะแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด สวนเล็กๆนี้ควรมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้คือ ต้องมีน้ำล้นน้ำผุด และกระถางต้นไม้ทรงกลมที่แต่ละกระถางปลูกดอกไม้หลากสี ได้แก่ สีขาว แทนธาตุทอง สีแดง แทนธาตุไฟ สีเขียว แทนธาตุไม้ สีม่วง แทนธาตุน้ำ และสีเหลือง แทนธาตุดิน นี่คือการแก้ไขที่ดีที่สุด
ข้อห้ามทางฮวงจุ้ยบางประการที่ต้องทราบสำหรับบ้านสร้างใหม่คือ จำนวนห้องต้องไม่มากกว่าจำนวนคนที่อยู่อาศัย เดี๋ยวนี้เวลาสร้างบ้านมักมีการออกแบบตกแต่งห้องนอนสำหรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน จึงเป็นห้องหนึ่งที่นานๆจะได้ใช้ประโยชน์ ในช่วงที่ยังไม่มีใครมาเยี่ยมเยือนห้องนี้ไม่ควรปิดไว้เฉยๆ ควรหมั่นใช้สอยบ้าง พลังที่ร้ายๆจะได้ไม่สะสมอยู่ในห้องนี้จนเป็นเหตุทำให้แขกผู้มาพักอาศัยฝันร้าย หรือพบเห็นวิญญาณที่ไม่ได้รับเชิญ ตามความเชื่อในทางศาสตร์ฮวงจุ้ยเชื่อว่าห้องที่ปิดไว้ไม่เคยใช้งาน จะมีแขกผู้ไม่รับเชิญหรือวิญญาณเร่ร่อนเข้ามาอาศัยอยู่ โดยเฉพาะห้องบางห้องที่ตรงกับทิศประตูผีมีโอกาสพบเห็นวิญญาณมากที่สุด แม้ไม่ปรากฏตัวก็มีเสียง
ห้ามสร้างศาลเจ้าที่ก่อนเจ้าของบ้านเข้าอยู่อาศัย ปัญหานี้พบได้บ่อยมาก และดูจะเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่เสมอๆว่าควรปฏิบัติอย่างไรกันแน่ ที่ผู้เขียนห้ามสร้างศาลเจ้าที่ก่อนเจ้าของบ้านเข้าอยู่อาศัยนั้น เป็นเพราะว่าเรามีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและสับสนกันอยู่มากๆ บ้านที่สร้างใหม่นี้หากจะกล่าวให้ถูก คุณต้องเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ มิใช่เจ้าที่หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันเราแยกกันไม่ออกว่าศาลเจ้ากับบ้านต่างกันตรงไหน และปฏิบัติกันมาแบบผิดๆเสมอ หากคุณสร้างศาลเจ้าที่ก่อนเข้าอยู่ หมายความว่าคุณได้ยกบ้านหลังนั้นให้กับเจ้าที่เจ้าทางรักษาแล้ว หากคุณเจอเจ้าที่เจ้าทางที่นิสัยไม่ดีก็จะสร้างความเดือดร้อนใจให้กับคุณจนอยู่ไม่ได้
หากสร้างศาลเจ้าที่ภายหลังจากที่เข้าอยู่อาศัยในบ้านหลังใหม่แล้ว หมายความว่าบ้านนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของคุณโดยสมบูรณ์ ไม่ว่าวิญญาณใดๆก็ไม่สามารถเข้ามารบกวนได้ การที่คุณสร้างศาลเจ้าที่ เช่น ศาลพระภูมิ ศาลตายาย หรือศาลตี่จู่เอี๊ย ปึ่งเถ่ากง ไว้ในพื้นที่บ้านของคุณภายหลังจากที่ได้ฤกษ์เข้าอยู่อาศัยแล้วนั้น ดูจะเป็นการให้เกียรติเจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากกว่าในฐานะที่ตัวคุณกับเจ้าที่ต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน และยินยอมที่จะอยู่ร่วมกันแบบสันติ เจ้าที่จะรักษาหน้าที่ของท่านในการดูแลพิทักษ์รักษาผู้อยู่อาศัย ป้องกันพลังร้ายๆไม่ให้มารบกวนผู้อยู่อาศัย
ในขณะที่เจ้าของบ้านก็มีหน้าที่ดูแลที่อยู่อาศัยของเจ้าที่ด้วยจิตที่ภักดี แบบนี้ดูจะส่งเสริมทำให้เกิดความเป็นมงคลมากที่สุด เพราะฤกษ์ที่เข้าอยู่ก็ดี ฤกษ์ที่อัญเชิญเจ้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ดี แบบนี้เสริมสองต่อ ดีสองเด้ง คุณว่าจริงไหม?
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 14 ฉบับที่ 3430 ประจำวันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 คอลัมน์ ฮวงจุ้ย โดย ซินแสทวิณัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น