วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ข่าว - เปิดเออีซีอสังหาฯโต


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในการสัมมนา "อนาคตนิติบุคคลบ้านและคอนโด...ยุค AEC" ว่า ปัจจุบันภาคอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตเฉลี่ย 7-10% หากเศรษฐกิจขยายตัว 5-7% โดยเฉพาะการเติบโตตามหัวเมืองใหญ่ อาทิ ภูเก็ต ระยอง และขอนแก่น เนื่องจากจะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน หรือร่วมทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยมากขึ้น ซึ่งจะนำเทคโนโลยีการก่อสร้าง นำแรงงานจากเอเชียใต้เข้ามา จะทำให้เกิดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้น

อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันการเก็งกำไรภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีขึ้นในระยะยาว กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องดูแลบังคับใช้กฎหมายในการเข้ามาถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรของต่างชาติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้น ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องส่งเสริมให้มีนักบริหารนิติบุคคลบ้านและอาคารชุดมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต เพราะหากมีนักบริหารนิติบุคคลจะทำให้ต่างชาติเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในไทย และจะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางอสังหาริมทรัพย์ในอาเซียนได้ โดยไทยจะต้องพัฒนาให้มีนักบริหารนิติบุคคลอย่างน้อยปีละ 1,000 คน 

นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานสมาคมการค้ากลุ่มก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า ราคาก่อสร้างในปี 2556 จะเพิ่มขึ้น 5-10% เนื่องจากวัสดุก่อสร้างและแรงงานมีไม่เพียงพอต่อความต้องการก่อสร้าง จึงเป็นประเด็นกดดันให้ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงสูงขึ้นเกินกว่าที่กำหนด จึงเชื่อว่าหลังจากเปิดเออีซี ราคาภาคอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือประมาณ 10-20% ขณะที่ต้นทุนด้านราคาที่ดินและการก่อสร้างของไทยจะต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียน ทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง จีน และมาเลเซีย จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย และจะเกิดอาคารสำนักงานมากขึ้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น