วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าว - ที่ดินริมทะบัวแดงขยับขึ้น 1-2 เท่าตัว


ที่ดินริมทะบัวแดง จ.อุดรฯ ขยับขึ้น 1-2 เท่าตัว



"ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี" คนแห่มาชมมากเกินคาด เป็นเหตุนายทุนเข้ากว้านซื้อที่ดินริมน้ำ ทำราคาที่ดินจากเรือนหมื่นเป็นเรือนแสน นายกฯท่องเที่ยวหวั่นธรรมชาติถูกทำทาย วอนชุมชนเร่งทำความเข็มแข็งสู้นายทุน  

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 6 กันยายน ว่าหลังจากที่ "ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี" ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ เดินทางมาพักผ่อนและชมความสวยงาม ดอกบัวแดงที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เบ่งบานพร้อมกันกลางท้องน้ำนับล้านๆดอก ทำให้มีนักลงทุน นักเก๋งกำไร เข้ามาติดต่อกว้านซื้อที่ดินบริเวณริมน้ำ ติดกับคันดินรอบหนองหานกุมภวาปี ทำให้ราคาที่ดินขยับสูงขึ้นประมาณ 1-2 เท่าตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา 
นายไพรสิทธ์ สุขรมย์ ประธานสภา ทต.เชียงแหว เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมานอกจากจะมีนักท่องเที่ยว เดินทางมามากเกินความสามารถ ที่ชุมชนจะสามารถจัดการให้ดีที่สุดได้ ก็ยังมีนายทุน นักธุรกิจ เข้ามาติดต่อซื้อหาที่ดินควบคู่ไปด้วย ต่อมาจนมาเมื่อไม่นานที่ผ่านมา มีข่าวว่ามีชาวบ้านตั้งแต่บ้านอุ่มจาน มาจนถึงบ้านดอนคง หลายคนตัดสินใจขายที่ดินแล้ว ทั้งหมดเป็นที่ดินติดกับหนองหาน ซึ่งจะมีคันดินกั้นที่ดินกับหนองหานอยู่ ในราคาตั้งแต่ 1.5-2.5 แสนบาทต่อไร่ จากเดิมที่ดินมีราคาเป็นหลักหมื่นเท่านั้น  

นายรักเกียรติ ศรีลาวงศ์ ผอ.โรงเรียนบ้านเดียม ผู้บุกเบิกการท่องเที่ยวทะบัวแดง เปิดเผยว่า มีนายทุนทั้งจากเมืองอุดรธานี และต่างจังหวัด ส่งคนเข้ามาติดต่อหาที่ดินตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ รวมไปถึงการซื้อแปลงเล็กเพื่อรวมเป็นแปลงใหญ่ เน้นที่ดินตั้งอยู่ติดกับหนองหานกุมภวาปี และเป็นพื้นที่ติดและไม่ห่างจาก "ทะเลบัวแดง" บางส่วนมีการซื้อขายโอนเปลี่ยนมือไปแล้ว โดยเป็นที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ แต่ขยับขยายย้ายไปอยู่ในเมือง หรือต่างจังหวัด ไม่มีเวลามาดูแลก็ขายกันไป

"ยังไม่รู้ว่านายทุ่นที่เข้ามาซื้อจริงเป็นใคร จะเป็นกลุ่มนายทุนที่ซื้อเพื่อเกรงกำไร หรือจะเป็นนักธุรกิจจะเข้ามาลงทุนด้านการท่องเที่ยว หรือการลงทุนด้านอื่น ผมพายามหาข้อมูลที่ชัดเจนอยู่ และขณะนี้ก็ยังมีนายหน้ามาติดต่ออยู่ เชื่อว่าส่วนที่ยังไม่มีการซื้อขาย คงติดที่ราคาที่ดินตกลงกันไม่ได้ หรือถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เพราะชาวบ้านหวงแหนไว้ให้ลูกหลาน "  

นายทินกร ทองเผ้า ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอุดรธานี กล่าวว่า มันเป็นปกติที่แหล่งท่องเที่ยวไหน มีผู้คนสนใจเดินทางไปท่องเที่ยวมากๆ ก็จะมีผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ก็จะเข้ามาลงทุนประกอบกิจการ ยกตัวอย่าที่ "ปาย" จ.แม่ฮ่องสอน หรือใกล้ๆที่ "เชียงคาน" จ.เลย นักธุรกิจที่เข้าไปเขามีทุน มีประสบการณ์มาก หากการจัดการท่องเที่ยวของชุมชนไม่พร้อม ท่าเรือที่ทะเลบัวแดงจะไม่มีแห่งเดียว จะเกิดท่าเรือขึ้นอีกเต็มๆไปหมด กติกาที่เราเคยมีจะคุมไม่อยู่ และยังมีเรื่องอื่นๆอีกมาก แหล่งท่องเที่ยวก็จะเสียหาย ชุมชนจะต้องเข้มแข็งมากขึ้น เตรียมความพร้อมให้มากกว่าเดิม

ที่มา......www.udon-today.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น