"เอกชนจี้ปรับมาตรฐานอาคารรับมือกำลังซื้อ ต่างชาติ ทะลัก"
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ คาดแรงงานเวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ จะเพิ่มขึ้นในไทย หลังเปิดเออีซี ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นแนะผู้ประกอบการอสังหาฯปรับตัวสร้างอาคารมาตรฐานสากล รับเทรนด์อาคารสีเขียว มาแรง
นายชาญ ศิริรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการฝ่ายบริหาร ทรัพยากรอาคารและวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 จะเกิดการเคลื่อนย้ายแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานฝีมือจากไทย จะย้ายไปในประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานที่สูงกว่า โดยเฉพาะอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ขณะที่แรงงานฝีมือจากเวียดนามและฟิลิปปินส์ รวมถึงแรงงานจากสิงคโปร์ในระดับผู้บริหาร จะเข้ามาในไทยมากขึ้นซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจบริหารทรัพยากรอาคาร ต้องปรับตัวด้วยการลด ต้นทุนต่างๆ โดยเฉพาะต้นทุนพลังงาน บุคลากร พร้อมไปกับการซ่อมแซมอาคารในส่วนต่างๆ เช่นการปรับปรุงอาคารให้เป็นกรีน เทคโนโลยี หรือ อาคารสีเขียว และทำให้อาคารมีสภาพเหมือนใหม่ โดยตรวจสอบสภาพของอาคาร และปรับปรุง ระบบต่างๆ
พร้อมกันนี้ ยังจะต้องสำรองข้อมูลต่างๆ เพื่อ ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ทั้งภัยธรรมชาติ และสุขอนามัย เช่น การจราจร น้ำท่วม และโรคภัยต่างๆ เป็นต้น และต้องเร่งสร้างมาตรฐานให้ได้ในระดับสากล เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัย เนื่องจากรูปแบบอาคารในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น
ขณะที่ค่าแรงงานขึ้นต่ำ 300 บาทต่อวันที่จะ มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศในวันที่ 1 ม.ค. 2556 จะทำให้ แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้นโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ส่งผลให้ต้นทุนด้านแรงงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 25-30% ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวด้วยการหาวิธีลดต้นทุนส่วนอื่นๆ หรือ หาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาให้แทนแรงงาน
ขณะที่เทรนด์การก่อสร้างอาคารจากนี้ไป จะเน้นกรีนเทคโนโลยี โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ก่อสร้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ตัวอาคาร โดยปัจจุบันมีอาคารเก่าที่รอการปรับปรุงให้ เป็นอาคารสีเขียวกว่า 500 อาคาร รวมถึงอาคารที่กำลังก่อสร้างใหม่อีกจำนวนไม่น้อย
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น