วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าว - ทูตจีนชี้คนอีสาน เตรียมรับระบบขนส่งรถไฟเร็วสูง

            "ทูตจีนชี้คนอีสาน เตรียมรับระบบขนส่งรถไฟเร็วสูง"




     ทูตจีนประจำประเทศไทยเผยคนอีสานมีสิทธิ์ได้ประโยชน์โครงข่ายคมนาคมจีน เผยปีหน้าประมูลก่อสร้างระบบขนส่งรถไฟเร็ว 200 กม.
     กระทรวงการต่างประเทศจัดสัมมนา ก้าวย่างของจีนในภูมิภาค ประโยชน์และโอกาสต่อจังหวัดขอนแก่น มีการปาฐกถาพิเศษโดย นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยในหัวข้อมุมมองจีนต่อขอนแก่นและภาคอีสานของไทย และ นายวิบูลย์ คูสกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ที่ร่วมเสวนาและปาฐกถาพิเศษในหัวข้อทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือไทยจีน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
     นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า รถไฟความเร็วสูงสายภาคเหนือและภาคอีสานจะทำให้คนไทยและคนจีนได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางที่พาดผ่านภาคอีสาน ซึ่งตนเห็นว่าจะต้องผลักดันให้เป็นรถไฟความเร็วสูงไม่น้อยกว่า 200 กม.ต่อชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านี้พูดกันว่าความเร็วที่ 160 กม.ต่อชั่วโมง เชื่อว่ารถไฟความเร็วสูงขนาดนี้แค่วางศิลาฤกษ์ก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคนี้ อย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยแทบจะไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบรถไฟ มีความเร็วแค่ 70 กม.ต่อชั่วโมง
     รถไฟความเร็วสูงนี้จะเปลี่ยนโฉมหน้าของประเทศไทย ซึ่งเส้นทางกทม. โคราช ขอนแก่น หนองคาย เวียงจันทร์และมุ่งสู่จีนระยะทาง 1,800 กม.จะใช้เวลาแค่ ประมาณ 10 ชั่วโมง จะสามารถขนส่งทั้งคนและสินค้าได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทยและภาคอีสาน ซึ่งตนเชื่อว่าจำเกิดขึ้นอย่างแน่นอนภายใน 10 ปีนี้เพราะว่าขณะนี้การศึกษาเสร็จแล้วอีกไม่นานก็จะมีการเปิดประมูลก่อสร้าง
  ภาคอีสานไม่ว่าจะเป็นขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมาซึ่งเป็นเมืองใหญ่จะต้องได้รับโอกาสที่ดี จะมีธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้น โดยเฉพาะตนอยากให้มีอุตสาหกรรมหนักเกิดขึ้นในประเทศไทย และสำหรับขอนแก่นประชากรแค่ 1.7 ล้านคน จะต้องมีการเตรียมรับ โดยเฉพาะการปรับยุทธศาสตร์ผังเมืองให้พร้อมโดยเฉพาะปัญหาการจราจร นอกจากนี้ภาคอีสานหรือขอนแก่นเองนั้น มีพื้นที่อีกมากซึ่งเป็นข้อได้เปรียบ
     ด้าน นายวิบูลย์ คูสกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า โครงข่ายคมนาคมกำลังเกิดขึ้น อีสานอยู่ตรงกลาง จีนมีนโยบายเดินออกไปตอนนี้ลงทุนในต่างประเทศ 3 แสนล้านเหรียญ แผนฉบับที่ 12 จะลงเงินเพิ่มขึ้นอีก 1.6 แสนล้าน อีสานอยู่ในที่ตั้งทะลุเข้าสู่จีนจะเข้าหรือออกจีนจะต้องผ่านภาคอีสาน สถานกงสุลใหญ่ มาตั้งที่นี่ ทำอย่างไรให้โยงกับนโยบายของรัฐบาลจีน สินค้าเกษตร 3 รายการอยู่ในภาคอีสานยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวหอมมะลิ และแม้กระทั่งผลไม้ก็โยงกับการเชื่อมโครงข่าย
     มูลค่าการค้าสินค้าเกษตร 8 แสนล้าน เป็นสินค้าของภาคอีสาน 2 แสนล้านหรือ 25 เปอร์เซ็นต์ ที่ไทยส่งไปจีน ต่อไปจะสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีกมหาศาล จึงอยากจุดประกายว่าวิธีคิดให้ได้ประโยชน์จากโครงข่ายคมนาคม ก่อนหน้านี้ชอบคิดว่าอีสานเสียเปรียบด้านระยะทางเพราะเอาไปเปรียบเทียบกับแหลมฉบัง
     แต่ตอนนี้ไม่เสียเปรียบแล้ว ถ้าคิดจาก 270 กม.จากนครพนม สาย 8 สาย 12 เห็นชัดเจนมาก อาหารทะเลเข้ามาได้จากเวียดนาม และถึงแม้ว่าภาคอีสานจะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวแต่โอกาสที่นักท่องเที่ยวจะผ่านโดยโครงข่ายคมนาคม และเส้นทางอื่นๆ สะพานมีอยู่แล้ว โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงที่จะเข้ามา การจัดการต้องได้เปรียบ "นายวิบูลย์ กล่าว"
     ในขณะที่ นายธงชัย ชาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หัวใจของงานสัมมนาที่ต้องจัดที่ขอนแก่นครั้งนี้เนื่องจาก ยุทธศาสตร์ที่เปลี่ยนไปการเชื่อมโยงจีนไทยจะไม่ใช่ทางภาคเหนือแล้ว แต่จะมาทางภาคอีสาน ด้วยโครงข่ายความเร็วสูง ของจีนทางใต้ผ่านลาวเข้ามาหนองคายถึงกรุงเทพฯ จนถึงท่าเรือ ซึ่งไม่น่าจะเกิน 6 ปี รถไฟจะวิ่งได้แล้ว ภาคเหนือนอกจากถนนเชียงของแล้วยังไม่เป็นรูปธรรมของการขนส่งระบบกลางที่ชัดเจน การเชื่อมโยงจึงชัดเจนทางภาคอีสานอย่างรวดเร็ว
     และขอนแก่นเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน เพราะฉะนั้นจึงมีความสำคัญจุดศูนย์กลางความเชื่อมโยงของภูมิภาคนี้ ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางอยู่แล้ว ตามนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่ 2505 ซึ่งแต่ก่อนอาจจะถูกจำกัดแค่ว่าเป็นศูนย์กลางอินโดจีน แต่ปัจจุบันไม่ใช่ ซึ่งจะเชื่อมถึงจีนโดยรถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่านนั่นเอง
     "ขณะนี้การศึกษาความเป็นไปได้ของรถไฟสายจีน เวียงจันทร์ หนองคาย กทม.จะเสร็จและเสนอในเดือนตุลาคม ที่จากนี้ไปไทยจะต้องไปเตรียมการเรื่องอื่นๆ คาดว่าปีหน้าจะเริ่มประมูลก่อสร้างรถไฟนี้ได้แล้ว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมขณะที่ภาคเหนือมีแต่คอนเซ็ปต์แต่ยังไม่ไปถึงไหน อย่างอื่นไม่มี และในเมื่อขอนแก่นเป็นศูนย์กลางจะต้องตื่นตัวขึ้นมาเตรียมพร้อมกับกับสถานการณ์ที่จะเปลี่ยนไป "นายธงชัย กล่าว
รวบรวมข้อมูลโดย UCC Today
ขอบคุณข่าวจาก... กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น