ข่าว - สินเชื่อที่อยู่อาศัยขยับสูงธปท.เกาะติดอสังหาฯ

 สินเชื่อที่อยู่อาศัยขยับสูงธปท.เกาะติดอสังหาฯ  

ธปท.เกาะติดภาคอสังหาฯ ใกล้ชิด หลังตัวเลขสินเชื่อที่อยู่อาศัยฝั่งแบงก์พาณิชย์เร่งตัวสูง ขณะที่การปรับค่าเอฟที-เก็บภาษีบาปทำเงินเฟ้อเดือนก.ย.พุ่ง คาดทั้งปียังอยู่ในกรอบเป้าหมาย

นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวในภาคตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หลังจากเริ่มเห็นแนวโน้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์เร่งตัวสูงขึ้น รวมถึงจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (ที่ปรับฤดูกาล) และราคาที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะราคาอาคารชุด ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายบ้านหลังแรกของรัฐบาล แต่มองว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยก็ฟื้นตัวต่อเนื่องดีอยู่แล้ว 

ขณะที่ในด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายนที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับปีก่อน และเร่งขึ้นค่อนข้างมากจาก 2.69% จากเดือนก่อนหน้า จากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า (ค่าเอฟที) ในอัตรา 18 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคในหมวดไฟฟ้า เชื้อเพลิง น้ำประปาและแสงสว่างเพิ่มสูงขึ้น 3.6% เทียบกับเดือนก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเร่งตัวขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนมาอยู่ที่ 1.89% ชะลอตัวลงจาก 1.76% ในเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตสุราและบุหรี่เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคในหมวดดังกล่าวเพิ่มขึ้น 4.5% จากเดือนก่อน ส่วนราคาอาหารสำเร็จรูปยังคงทรงตัว

"เงินเฟ้อที่สูงขึ้นถือว่ายังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ธปท.คาดการณ์ไว้ระดับ 0.5-3.0% โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังเชื่อว่าไม่น่าจะมีแรงกดดันให้เงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ทั้งปี 2.9% จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หรือแม้กระทั่งเศรษฐกิจโลกจะได้รับการกระตุ้นจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี 3) ก็ตาม ทำให้การยกเว้นเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอาจเลื่อนออกไปเป็นระยะๆ"

ที่มา :หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,781 วันที่ 7-10 ตุลาคม พ.ศ. 2555